วันหยุดตามกฎหมายแรง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท โดยที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุดทั้ง 3 ประเภท ให้แก่พนักงาน ยกเว้น ลูกจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
วันหยุดประจำสัปดาห์
ไม่น้อยกว่า 1 วัน/สัปดาห์ โดยให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 6 วัน โดยจะหยุดวันใดก็ได้ แล้วแต่ตกลงกันไม่จำเป็นต้องเป็นเสาร์ – อาทิตย์
วันหยุดตามประเพณี
ไม่น้อยกว่า 13 วัน/ปี โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติด้วย โดยพิจารณาจากวันหยุดราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนาหรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าวันหยุดตามประเพณีตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ให้หยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันทำงานถัดไป
วันหยุดพักผ่อนประจำปี
ไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน/ปี สำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาครบ 1 ปี อาจตกลงกันล่วงหน้าสะสมและเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปี ไปรวมหยุดในปีต่อๆ ไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดคราวเดียว 6 วันติดกัน อาจแบ่งเป็นครั้งๆ ไปก็ได้
ในกรณีที่ต้องมาทำงานในวันหยุด
ค่าทำงานในวันหยุด
– ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายเดือน จะได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 เท่า
– ลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายวัน จะได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า
ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
จะได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดเพิ่มไม่น้อยกว่า 3 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงาน
เป็นอย่างไรบ้างครับ หวังว่าบทความ การจัดการวันหยุดพนักงาน ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด จะเป็นประโยชน์ช่วย HR ในการจัดวันหยุดประจำปี ทั้งลูกจ้างและนายจ้างเองก็อย่าลืมรักษาสิทธิของตัวเองด้วยนะครับ เพื่อการทำงาน และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สำหรับบริษัทที่กำลังมองหาผู้ช่วย HR ทั้งการลงเวลา, การจัดการวันหยุดของพนักงาน, ช่วยทำเงินเดือน รวมทุกงาน HR ในแอปเดียว OneDee.ai ช่วยคุณได้
ขอบคุณข้อมูลจาก: กระทรวงเเรงงาน