ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก แอปพลิเคชั่น ติดต่อสื่อสารไปได้ทั่วโลกอย่าง “Line” แน่นอน หลายคนนอกจากจะใช้คุยเล่นกับครอบครัว เพื่อน หรือคนรักแล้ว ก็ยังใช้ในการคุยงานต่าง ๆ กับหัวหน้า/ลูกน้องอีกด้วย ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วเราไม่ควรใช้ Line ในการ คุยงาน เลย ว่าแต่ทำไมถึงไม่ควรใช้คุยงานล่ะ? วันนี้เราจึงมี 10 เหตุผล ที่ไม่ควรใช้ Line ในการคุยงานมาบอกต่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น

1. Server จะไม่มีมีการสำรองข้อมูลไว้ให้
ข้อความทุกอย่างที่คุยใน Line จะถูกเก็บไว้ในเครื่องของเรา หากมีการเปลี่ยน หรือล้างเครื่องก็จะทำให้ข้อความที่คุยกันไว้หายหมด และถึงแม้จะสามารถเก็บไว้บน Cloud ก็เสี่ยงที่จะผิดพลาดได้เพราะทุกคนต้อง Backup ข้อความเอง ส่วนคนที่ใช้ Line ผ่านคอมพิวเตอร์ก็จะไม่สามารถย้อนอ่านข้อความเก่ามากได้ ทำให้ความเข้าใจหรือข้อมูลในการทำงานผิดเพี้ยนได้

2. ไม่สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นได้
Line เป็นแอปพลิเคชั่นที่ไม่สามารถใช้งานร่วม หรือเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่นที่มีจุดเด่นคนละอย่างกับ Line ได้ ในขณะที่แอปพลิเคชั่นบางประเภทสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้ทำงานร่วมไปด้วย ซึ่งก็จะช่วยในการทำงานของเราให้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง

3. File ที่ส่งกันไว้หมดอายุ
File ในที่นี้ได้แก่ รูปภาพ คลิปวิดีโอ ไฟล์งานอื่น ๆ ซึ่งการส่งกันใน Line จะอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น พอเปิดอีกทีจะดูไม่ได้แล้วหรือที่เรียกว่า “File หมดอายุ” แน่นอนว่าถ้าเป็นเอกสารสำคัญก็จะสร้างความทุกข์ใจให้ไม่น้อยเลยล่ะ

4. ความเป็นมืออาชีพ ความน่าเชื่อถือน้อย
แม้ว่าแอปพลิเคชั่นอย่าง Line จะช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนได้ง่ายกว่าเดิม แต่ถ้าหากใช้ในการคุยงานสังเกตเลยว่าลูกค้าหลายคนจะไม่ค่อยชอบด้วยมันแสดงออกถึงความไม่เป็นมืออาชีพ การพิมพ์ต่าง ๆ ดูห้วน ๆ ไม่มีหลักเกณฑ์ความเหมาะสม หรือบางคนใช้การโทร Line หาลูกค้ายิ่งทำให้รู้สึกเลยว่าระดับความน่าเชื่อถือลดลงกว่าเดิม

5. ส่งข้อความ คุยงาน แล้ว แต่ Line ไม่เด้งในทันที
ปัญหาของ Line ที่หลายคนใช้คุยงาน ต้องเคยเจอคือการแจ้งเตือนทั้งที่มีข้อความส่งมาแล้วแต่กลับไม่เด้งให้เห็นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือซะงั้น ทำให้การอ่าน การตอบกลับอาจไม่ทัน จึงไม่สามารถคาดหวังกับการตอบงานทันทีได้ 100%

6. แยกการแจ้งเตือนไม่ได้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแต่ละคนมีกลุ่ม Line มากกว่า 5 กลุ่ม ยิ่งใครที่อยู่ในองค์กรที่คนเยอะ แผนกแยะแล้วต้องตกลงงานกันก็จะยิ่งต้องเข้าร่วมกลุ่มมากมาย รวมทั้งแชทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องงานด้วย ซึ่ง Line จะแจ้งเตือนให้ทุกกลุ่ม ทุกแชททุกเวลา คือไม่สามารถแยกแจ้งเตือนเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานได้ ถึงจะมีการปิดแจ้งเตือนกลุ่มแต่ก็คงปิดได้ไม่ทุกกลุ่มจริงไหม..

7. กลุ่มเยอะ แชท แยะเสี่ยงส่งผิดกลุ่มได้
อย่างที่บอกว่าแต่ละคนมีกลุ่มเยอะทั้งกลุ่มงาน หรือกลุ่มคุยกับเพื่อน หรือแม้แต่แชทส่วนตัว จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่เราอาจส่งข้อความที่เป็นข้อมูลสำคัญ หรือส่งงานไปผิดกลุ่ม ซึ่งการส่งผิดกลุ่ม ผิดแชทถ้ารู้ตัวเร็วก็โชคดีไปเพราะ Line มีการให้ยกเลิกข้อความได้ แต่ถ้ารู้ตัวช้าข้อมูลนั้น ๆ อาจล่วงรู้กันไปหมด ก็ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นข้อมูลลับขององค์กรจะเป็นอย่างไร.. ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังในการส่งอย่างมาก

8. ความเป็นส่วนตัวถูกรุกล้ำง่ายมาก
หัวหน้าบางคนอาจชื่นชอบในการส่งงาน คุยงาน นอกเวลา หรือความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยในกลุ่มหลังจากที่เลิกงานไปแล้ว จึงกลายเป็นความรู้สึกว่าถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอยู่ เนื่องจาก Line เป็น แอปพลิเคชั่น ที่ง่ายและสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน

9. สร้างความอับอายได้
ทุกคนต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายมาแต่บางครั้งอาจยังไม่ได้ส่งงานไปทันที หรือบางคนทำงานผิดพลาด ส่วนใหญ่หัวหน้าจะไม่ต่อว่าในแชทส่วนตัวแต่กลับไปพูดต่อว่า หรือ คุยงาน ทวงงานในกลุ่ม Line ที่มีเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ อยู่มากมาย ทำให้รู้สึกอับอาย เหมือนโดนประจานลงกลุ่ม เกิดทัศนคติต่อหัวหน้าที่ไม่ดีเท่าไรนักไปอีก

10. สร้างความบาดหมางได้ง่าย
บ่อยครั้งที่ Line สร้างปัญหาจากการอ่านแล้วไม่ตอบโดยเฉพาะกลุ่มที่มีสมาชิกอยู่มาก อ่านครบ 15 คนแล้วก็ยังไม่มีใครตอบ ซึ่งฝั่งของลูกน้องก็อาจมองว่าสิ่งที่หัวหน้าถามขอใช้เวลาคิดก่อน จะมารีบตอบไปเลยเดี๋ยวก็เป็นปัญหาซ้ำอีก แต่ฝั่งของหัวหน้ากลับรู้สึกว่าถามไปไม่มีคนสนใจ ใส่ใจเพราะไม่มีใครยอมตอบเลย สร้างความบาดหมางกันเองได้ง่ายมาก
แม้ว่า Line จะเป็นแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารพูดคุยกันได้ทั่วโลก แต่ทั้งนี้แนะนำว่าควรแยกเอาไว้คุยเรื่องส่วนตัวกับครอบครัว, เพื่อน แล้วเลือกใช้แอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่ไว้ คุยงาน โดยเฉพาะหรือเอาไว้สำหรับการ คุยงาน เป็นทีม เช่น Slack, OneDee, Workplace, Asana, Basecamp เป็นต้น